Dec 8, 2022
“อีลอน มัสก์” เสียแชมป์บุคคลร่ำรวยที่สุดในโลก ให้เจ้าของหลุยส์ วิตตอง

อีลอน มัสก์ เจ้าของTwitterและซีอีโอเทสลา ถูกโค่นตำแหน่งบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลก เมื่อวันพุธ อ้างอิงจากการจัดอันดับของนิตยสารฟอร์บส จากมูลค่าหุ้นเทสลาที่ร่วงลงอย่างมาก และมหากาพย์ดีล
Twitter 44,000 ล้านดอลลาร์

อีลอน มัสก์ เสียแชมป์ให้กับ เบอร์นาร์ด อาร์โนลด์

สำนักข่าวรอยเตอร์อ้างอิงจากรายงานของนิตยสารฟอร์บส ที่ระบุว่า อีลอน มัสก์เสียแชมป์ไปชั่วคราวในวันพุธให้กับเบอร์นาร์ด อาร์โนลด์ วัย 73 ปี ซีอีโอของ LVMH ผู้ผลิตสินค้าแบรนด์หรูอย่าง Louis Vuitton, Christian Dior และ Givenchy และยังเป็นเจ้าของร้านขายเครื่องสำอางค์ Sephora ที่มีมูลค่าทรัพย์สิน 184,700 ล้านดอลลาร์

เขา ช่วงชิงตำแหน่งนี้มาจากเจฟฟ์ เบโซส ผู้ก่อตั้งAmazon และครอบครองตำแหน่งบุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลก ตามการจัดอันดับของฟอร์บส มาตั้งแต่เดือนกันยายนปีก่อน มีทรัพย์สินมูลค่า 185,400 ล้านดอลลาร์ ตามข้อมูลของฟอร์บส
ณ บ่ายวันพุธ

มูลค่าทรัพย์สินสุทธิของเขา ลดลงต่ำกว่า 200,000 ล้านดอลลาร์ในวันพุธ หลังจากที่ผู้ลงทุนเทขายหุ้นเทสลา จากความกังวลว่าผู้บริหารและผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทรถยนต์ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้ารายนี้จะทุ่มเทให้กับTwitterมากขึ้นกว่าเมื่อก่อน

นอกเหนือจากเทสลาแล้ว เขายังบริหารบริษัทเทคโนโลยีอวกาศ สเปซเอ็กซ์ และนิวรัลลิงค์ สตาร์ทอัพที่พัฒนาชิปฝังใส่สมองซึ่งจะเชื่อมต่อสมองมนุษย์กับระบบคอมพิวเตอร์อีกด้วย

บุคคลร่ำรวยที่สุดในโลก

เปิดประวัติ“อีลอน มัสก์”

อีลอน รีฟ มัสก์ เกิดเมื่อวันที่ 28 มิ.ย. 1971 ที่กรุงพริทอเรีย 1ใน3เมืองหลวงของประเทศแอฟริกาใต้ ในครอบครัวที่มีพ่อเป็นวิศวกรชาวแอฟริกาใต้ และแม่เป็นนางแบบและนักโภชนาการเชื้อสายแคนาดา เขามีน้องชาย 1 คน และน้องสาว 1 คน

ในวัยเด็ก เขาสนใจและมีพรสวรรค์ในเรื่องคอมพิวเตอร์และวิดีโอเกมส์ จนเมื่ออายุได้ 12 ปี เขาก็ลงมือเขียนโค้ดวิดีโอเกม สร้างชื่อเสียงให้กับตัวเอง ต่อมาเขาได้เข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยพริทอเรียเป็นช่วงเวลาสั้นๆ ก่อนจะย้ายไปอยู่แคนาดาเมื่ออายุได้ 17 ปี เพื่อเลี่ยงเกณฑ์ทหาร โดยเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยควีนส์ ในรัฐออนแทรีโอของประเทศแคนาดา 2 ปีต่อมาจึงได้ย้ายไปมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย สหรัฐอเมริกา เขาเรียนจบปริญญาด้านด้านเศรษฐศาสตร์และฟิสิกส์ ก่อนจะย้ายไปอยู่รัฐแคลิฟอร์เนียเมื่อปี 1995 เพื่อเข้าศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด แต่สุดท้ายเขาเลือกที่จะทุ่มให้กับธุรกิจของเขามากกว่า

เขาเป็นผู้ก่อตั้ง บริษัทหลายแห่ง ตั้งแต่บริษัทเว็บซอฟต์แวร์ “ซิป2” ร่วมกับน้องชาย ก่อตั้งธนาคารออนไลน์ “เอ็กซ์ดอทคอม” ซึ่งถูกควบรวมกิจการกับบริษัทคอนฟินิตี และก็กลายเป็นบริษัทPayPalในปัจจุบัน ต่อมาในปี 2002 เขาก่อตั้งบริษัทสเปซเอ็กซ์ บริษัทผู้ผลิตยานอวกาศและผู้ให้บริการขนส่งทางอวกาศ และเมื่อปี 2004 ก็ก่อตั้งและร่วมลงทุนในบริษัทเทสลาซึ่งได้ขึ้นดำรงตำแหน่งซีอีโอ ในปี 2008 นอกเหนือจากเทสลาบริษัทดังกล่าว เขาก็ยังก่อตั้งบริษัทโซลาซิตี้ โอเพ่นเอไอ นิวรัลลิงก์ และบอริ่งคอมพานี นอกเหนือจากนี้ยังเป็นผู้เสนอแนวคิดเรื่องไฮเปอร์ลูป ระบบการเดินทางด้วยความเร็วสูงผ่านท่อสุญญากาศอีกด้วย

บุคคลร่ำรวย

จุดเริ่มธุรกิจของอีลอน มัสก์

เขาย้ายไปอยู่แคนาดาตอนอายุ 17 ปี โดยได้รับสัญชาติแคนาดาผ่านทางแม่ ไปเข้าเรียนที่มหาวิทยาลัยควีนส์ ในเมืองคิงสตัน ที่ซึ่งเขาได้พบกับ จัสติน วิลสัน ภรรยาคนแรกของเขา โดยทั้งคู่แต่งงานและมีลูกชายถึง 5 คน เป็นแฝด 2 และแฝด 3
ก่อนจะหย่ากันในปี 2008

หลังจากเรียนที่มหาวิทยาลัยควีนส์ได้ 2 ปี เขาก็ย้ายไปเรียนที่มหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนียในสหรัฐฯ เลือกวิชาเอก 2 ตัว แต่เขาไม่ได้เรียนอย่างเดียว เขากับเพื่อนนักศึกษาอีกคน ซื้อหอพักขนาด 10 ห้องนอนและใช้เป็นเหมือนไนต์คลับส่วนตัว ก่อนที่เขาจะเรียนจบปริญญาตรีสาขาวิทยาศาสตร์เอกฟิสิกส์ และสาขาศิลปศาสตร์เอกเศรษฐกิจจากโรงเรียน วาร์ตัน

พออายุได้ 24 ปี เขาก็ย้ายไปประเทศแคนาดาเพื่อเรียนต่อปริญญาเอกที่มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด แต่เนื่องจากยุคนั้นเป็นช่วงที่อินเทอร์เน็ตเฟื่องฟูขึ้นมาและซิลิคอนวัลเลย์กำลังบูม ทำให้วิสัยทัศน์ในฐานะนักธุรกิจของมัสก์พรั่งพรู จนทำให้เขาล้มเลิกเรื่องการต่อปริญญาเอกทันที หลังสมัครได้เพียง 2 วัน

อีลอน มัสก์ เสียแชมป์

มหากาพย์การ เทกโอเวอร์ Twitter
เขาถือเป็นผู้ใช้งานเว็บไซต์Twitterตัวยง ก่อนจะมีการเปิดเผยในเดือนเมษายนที่ผ่านมาว่า เขาถือหุ้นTwitterถึง 9.2% ทำให้คณะกรรมการของทวิตเตอร์เสนอตำแหน่งในบอร์ดบริหารแก่เขา ซึ่งเขารับก่อนจะปฏิเสธภายในไม่กี่วันต่อมา ภายหลังจากนั้น เขาก็ส่งจดหมายถึงบอร์ดบริหารของTwitter เสนอที่จะซื้อบริษัทในราคา 54.20 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อหุ้น

นั่นก็คือจุดเริ่มต้นของมหากาพย์การซื้อTwitterของเขา โดยในตอนแรกบอร์ดของTwitter ไม่ต้องการที่จะขาย และใช้กลยุทธ์วางยาพิษ (poison pill) ด้วยการอนุญาตให้ผู้ถือหุ้นเดิม สามารถซื้อหุ้นออกใหม่ในราคาที่ถูกลง เพื่อลดการถือครองของนักลงทุนรายใหม่ และเพื่อไม่ให้เขาถือครองหุ้นมากขึ้นกว่าเดิม แต่สุดท้ายTwitterก็ได้ตกลงขายบริษัทภายใต้ข้อตกลงมูลค่า 4.4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ

แต่ทว่าในเดือนกรกฎาคม 2022 เขากลับพยายามถอนตัวออกจากข้อตกลงดังกล่าว อ้างว่าTwitterล้มเหลวในการให้ข้อมูลเกี่ยวกับบัญชีผู้ใช้ปลอมและสแปมในระบบ ซึ่งทำให้Twitterยื่นฟ้องร้องมหาเศรษฐีรายนี้ เพื่อบังคับให้เขาทำข้อตกลงให้แล้วเสร็จ จากนั้นทั้งคู่ฝ่ายก็ต่อสู้กันทางกฎหมายเรื่อยมา

กระทั่งในวันที่ 3 ต.ค. 2022 เขาก็กลับลำอีกครั้ง โดยบอกว่าเขาจะซื้อTwitterในราคาที่เขาเสนอไปในตอนแรกคือ 54.20 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อหุ้น ถ้าหากผู้ให้บริการเครือข่ายสังคมออนไลน์เจ้านี้ยอมถอนฟ้อง ต่อจากนั้นในวันที่ 26 ต.ค. เขาไปยังสำนักงานใหญ่ของTwitterที่ซาน ฟรานซิสโก พร้อมกับแบกซิงก์ล้างหน้า และเปลี่ยนข้อมูลประวัติบนหน้าTwitterของตัวเองใหม่ โดยใช้คำว่า “Chief Twit”
ก่อนจะปิดดีลซื้อขายในวันต่อมา ได้เป็นเจ้าของTwitterอย่างเป็นทางการ

อีลอน มัสก์ เสียแชมป์หลุย

Tesla กับ SpaceX อีลอน มัสก์

เข้ามามีบทบาทธุรกิจกับ Tesla ซึ่งตอนนั้นยังใช้ชื่อ Tesla Motor ในฐานะนักลงทุนเริ่มแรกในปี 2004 โดยสนับสนุนเงินทุกจำนวน 6.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และเข้าร่วมทีมบริหารบริษัทร่วมกับนาย มาร์ติน เอเบอร์ฮาร์ด ผู้รับตำแหน่งซีอีโอ แต่อย่างไรก็ตาม เกิดความไม่ลงรอยกันหลายอย่างในบริษัท ทำให้นายเอเบอร์ฮาร์ดถูกถอดจากตำแหน่งในปี 2007 ก่อนที่เขาจะรับตำแหน่งซีอีโอ กับฝ่ายสถาปัตยกรรมผลิตภัณฑ์ และทำให้ Tesla กลายเป็นผู้ผลิตรถยนต์ที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก

ขณะเดียวกัน เขาได้ใช้เงินส่วนใหญ่ที่ได้จากเงิน 180 ล้านดอลลาร์ที่ได้จากการขายหุ้น PayPal ในการก่อตั้งบริษัท เทคโนโลยีการสำรวจอวกาศ (Space Exploration Technologies Corporation) ซึ่งรู้จักกันทั่วไปในชื่อ SpaceX ในปี 2002 และปัจจุบันกลายเป็นผู้ผลิตจรวดนำส่งรายใหญ่ของโลก ได้ทำสัญญาณขนส่งกับองค์การนาซา และเขาวางแผนจะส่งนักบินอวกาศไปยังดาวอังคารให้ได้ภายในปี 2025 ด้วยความร่วมมือกับนาซา

More Details